เชื่อได้เลยว่าทุกวันนี้คนที่อายุเกิน 20 กว่า 50 % จะต้องมีหนี้ไม่มากก็น้อย หลายคนที่ยังเรียนไม่จบก็มีหนี้ติดตัวกันแล้ว ด้วยการกู้ยืมมาเรียน ก็ถือว่าเราได้ซื้อความรู้เพื่อมาสร้างรายได้ ก็ไม่ได้ถือว่าผิดแต่การเป็นหนี้นั้นก็ต้องใช้ แต่บางครั้งการที่เราเกิดหนี้ก็ไม่ได้เป็นหนี้ด้วยความจำใจ แต่มันเกิดจากความจำเป็น จำเป็นแบบไหน ก็ตอนที่เราคิดว่าการลงทุนของเรานั้นคิดว่าเราจะสามารถทำรายได้จากสิ่งที่เป็นอยู่สิ่งที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อได้ลองทำดูสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเราสามารถดำเนินธุรกิจไปได้ กำลังไปได้ดี ก็เจอนายทุนที่มีความคิดที่ดีกว่าแล้วก็รอคอยใครสักคนที่มาทดลองทำตลาดให้ดูเป็นช่องทางก่อนแล้วก็ทำการเข้ามาต่อยอดกิจการที่เราได้สร้าง ด้วยทุนที่หนากว่า ความรู้ความสามารถที่เหนือกว่า ก็เข้ามาทำธุรกิจเลียนแบบเรา ในที่สุดเราก็ต้องจำยอมพ่ายแพ้กับธุรกิจที่ใหญ่กว่า แล้วก็เจ็งในที่ที่สุด และสิ่งที่ตามมานั้นคือคำว่าขาดทุน เป็นหนี้ที่กู้มาลงทุน
เมื่อเป็นหนี้แบบนี้แล้วหลายคนก็จะถอดใจไม่ยอมที่จะเดินหน้าต่อปล่อยให้จมลงไปกับดินให้ร่างกายค่อยๆ โดนปัญหาเกาะกินร่างกายและจิตใจไปที่ละน้อย จนในที่สุดก็ตรอมใจไม่ประสบความสำเร็จในทุกอย่าง แม้งานประจำก็ไม่สามารถที่จะเดินหน้าไปได้
หลายคนที่เป็นหนี้ เรียกว่าเกือบทุกคนที่เป็นหนี้จะถูกต้องกว่าก็จะมีการมองหาโอกาสในการแก้ปัญหาทำกำไรจากการค้าขาย กู้มาลงทุนก็ต้องการกำไรเพื่อไปใช้จ่าย และใช้หนี้ที่ได้กู้ยืมมา แล้วถ้าเกิดว่ามีปัญหากับการจัดการหนี้ เราควรต้องทำอย่างไร การแก้ปัญหาแบบถาวร จริงจังต้องแก้ปัญหากันอย่างไร
หลักการนั้นมีมากมายแต่พอที่จะสรุปให้ทุกคนสามารถทำได้ 5 วิธี
1.ตั้งสติ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามแต่สิ่งแรกที่ควรทำคือต้องมีสติก่อน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจำเป็นต้องมีสติในการทำทุกอย่างก่อน เราไม่ได้ไปปล้น ฆ่าหรือ ขมขื่น ใครมา เมื่อเรากล้าเผชิญหน้ากับเจ้าหนี้ทุกราย ตรงนี้เจ้าหนี้ก็จะเห็นว่าเรายังไม่หนีไปไหน เรายังสามารถใช้หนี้คืนได้อย่างแน่นอน แล้วอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับเจ้าหนี้ฟังอย่างชัดเจน เราก็จะได้เวลาในการชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้น ยืดระยะเวลาในการชำระหนี้เพิ่มขึ้น
2.อย่าให้ครอบครัวเดือดร้อน
การเป็นหนี้สิ่งที่จะขาดไม่ได้และต้องทำให้ได้คือการชำระหนี้ แต่ก็ต้องไม่ลืมทุกคนในครอบครัวด้วย ถ้าเราชำระหนี้จนหมดแล้วไม่สามารถที่จะนำพาครอบครัวให้มีกินมีอยู่ได้ตลอดทั้งเดือนแบบนี้ไม่นานก็จะมีหนี้เพิ่ม จากการกู้มากินมาใช้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผิดอย่างที่สุด ควรวางแผนระยะสั้นสำหรับหนึ่งเดือนที่เราต้องใช้จ่ายแล้วเหลือเท่าไหร่ก็ให้แบ่งเป็น 2 ส่วนอีกครั้ง ครึ่งหนึ่งสำหรับการใช้หนี้ และอีกครึ่งหนึ่งไว้สำหรับการต่อยอดธุรกิจหรือการสร้างงานชิ้นใหม่
3.หารายได้เสริม
ทุกคนรู้ว่าต้องหารายได้เสริม แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเราควรทำให้มากและคิดให้น้อย เมื่อคิดอะไรได้ก็ให้รีบลงมือทำไปก่อน ยิ่งถ้าเป็นการลงแรงมากกว่าการลงทุนยิ่งต้องรีบทำไปก่อน เพราะนั้นคือการใช้เหงื่อแรกเงินโอกาสขาดทุนก็เป็น 0 เท่ากับได้ 100% จะได้มากได้น้อยก็ค่อยพิจารณางานที่ทำว่าควรทำต่อหรือจะเลือกงานใหม่ให้เหมาะกับงานที่เราต้องทำ
4.ต้องขยันขึ้น
ความขยันคือสิ่งที่ทำให้คนจนรวยได้ คนรวยสามารถรวยได้แบบไม่สิ้นสุด ความขยันไม่เคยทำให้ใครต้องอดตายสิ่งที่จำเป็นต้องทำคือต้องขยันขึ้นไม่ว่าจะต้องทำมากทำน้อยก็ควรต้องทำไปก่อน บางครั้งอาชีพเสริมที่ทำอยู่ก็เป็นเรื่องที่เปิดช่องทางใหม่แล้วก็เป็นการเปิดเส้นทางแห่งความสำเร็จความร่ำรวยได้ หลายคนที่ทำงานประจำแล้วทำอาชีพเสริมอย่างมีความสุขในที่สุดก็จะเปลี่ยนงานไปแบบมีความสุขโดยที่ไม่รู้ตัว
5.วางแผนระยะสั้น
การวางแผนระยะสั้นคือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ยิ่งเป็นการวางแผนรายอาทิตย์ก็ยิ่งเป็นส่วนที่จำเป็นที่สุดและควรต้องทำตามแผนทุกขั้นตอน การวางแผนตรงนี้ ห้ามวางแผนคนเดียวเพราะการวางแผนคนเดียวนั้นจะเป็นการวางแผนสำหรับเข้าข้างตัวเองเป็นส่วนใหญ่ทำให้การวางแผนนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าเป็นไปได้ เราสามารถปรึกษากับเพื่อนรวมงานหรือผู้ใหญ่ที่เคยผ่านจุดตรงนี้ของเราไปแล้ว ไม่เพียงแต่จะได้คำแนะนำที่ดี อาจจะการช่วยเหลือในด้านอื่นด้วย
การเปิดใจว่าเราเป็นหนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ ยอมรับว่าเป็นหนี้ไม่ว่าเราจะเป็นหนี้แบบไหนเป็นหนี้มาจากอะไรหาผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์มาก่อนจะเป็นการดีที่สุด คำแนะนำจากประสบการณ์ตรง ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและหายากมาก คนที่ได้ผ่านจุดนี้มาแล้ว และรอดพ้นมาอย่างสวยงาม จำเป็นที่สุดเราจำเป็นต้องวิ่งเข้าหาเขาแต่โดยด่วนก่อนที่เรื่องราวของคำว่าหนี้จะกลายเป็นปัญหาระดับครอบครัว เป็นหนี้อย่าอายการที่จะไปกู้ยืมต่างหากที่ต้องอาย คนที่สำเร็จทุกวันนี้ก็เคยมีหนี้ท่วมหัวมาแล้วทั้งนั้น แต่เขามีการวางแผนที่ดีถึงได้มาบอกต่อกับเราทุกวันนี้